อยากรีบกลับบ้านไหม
โดย ศจ. ดร. เสรี หล่อกัณภัย เมื่อ 10 สิงหาคม 2012 เวลา 12:08 น.
ทุกวันนี้ ปัญหาครอบครัวเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ และของคนทั้งโลก
ครอบครัวของคนไทยปัจจุบัน ต้องกระจัดกระจายกันอยู่คนละที่คนละทาง เพราะหลายสาเหตุ
บางครั้งเพราะหน้าที่การงาน
บางครั้งเพราะการศึกษา
บางครั้งก็เพราะเรื่องเศรษฐกิจในสมัยนี้
ถ้าเด็กคนไหนได้อยู่กับพ่อ/แม่ของตัวเองก็ดีกว่าเด็กคนอื่นๆ อีกหลายคนมากนัก
จากข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์
ดูเหมือนว่ามีเด็กอยู่กลุ่มหนึ่งที่ไม่ชอบกลับบ้าน ชอบออกไปก่อเหตุนอกบ้าน
ผมจึงได้ทำแบบสอบถามขึ้นมาถามเด็กนักเรียน 3 ระดับชั้นคือ
ประถมปลาย มัธยมต้นและมัธยมปลาย
ว่าหลังโรงเรียนเลิกแล้ว เขาอยากรีบกลับบ้านหรือไม่?
ในคำจำกัดความของบ้าน
คือสถานที่พักของเขา ที่มีคุณพ่อ/คุณแม่อาศัยอยู่ด้วย
เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ก.ค. 2012 ที่ผ่านมา
ผมได้แจกแบบสอบถามออกไป 250 ชุด
ให้กับเด็กที่มาร่วมแข่งขัน
“ซูเปอร์จิ๋วเจาะโลกพระคัมภีร์ เขตภาคกลาง”
ซึ่งเป็นเด็กๆ ที่มาจากกรุงเทพฯ และหลายจังหวัดในภาคกลาง
ได้แก่
ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด จันทบุรี ระยอง
นนทบุรี นครปฐม สมุทรปราการ ปทุมธานี
ราชบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว เพชรบูรณ์
แจกไป 250 ชุด ได้รับกลับคืนมา 174 ชุด แยกเป็น
ประถมปลาย 52 ชุด มัธยมต้น 63 ชุด มัธยมปลาย 53 ชุด
เมื่อประมวลผลแล้วพบว่า
คำตอบจากเด็ก 3 ช่วงวัยน่าสนใจมาก คือ
รุ่นประถมปลาย 87% ตอบว่าอยากรีบกลับบ้านและ 13% ไม่อยากกลับบ้าน
เหตุที่อยากกลับบ้าน เพราะรู้สึกอบอุ่นจากความรักของพ่อแม่
รุ่นมัธยมต้นพบว่า 59% ที่อยากกลับบ้านและ 30% ไม่อยากรีบกลับบ้าน
เหตุผลที่อยากกลับบ้าน เพราะได้ดูทีวีและดูหนัง
ส่วนเหตุผลที่ไม่อยากกลับบ้าน มากกว่าระดับมัธยมปลาย
เหตุผลหลักก็คือ
เด็กมัธยมต้นอยากเล่นกับเพื่อน อยากทำการบ้านกับเพื่อน อยากสนุก
ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเพื่อน
หากพ่อแม่ที่มีลูกในวัยนี้ต้องการให้ลูกของท่านกลับบ้าน
ก็อย่าลืมเอาใจใส่เพื่อนของลูกด้วย
คือเปิดโอกาสให้ลูกชวนเพื่อนมาเล่นที่บ้าน/มาที่บ้านเพื่อทำการบ้านด้วยกัน
ประโยชน์ที่พ่อแม่จะได้รับคือ
ท่านจะได้ดูแลลูกใกล้ชิดขึ้นและรู้ว่าลูกของท่านคบเพื่อนประเภทไหน
หากลูกของท่านไม่กลับบ้าน
ก็ยังคะเนได้ว่าลูกของท่านน่าจะไปกับเพื่อนคนไหนบ้าง
คำตอบแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งนี้ มีปัจจัย 2 อย่างที่เกี่ยวข้อง คือ
ในระดับมัธยมต้นมีเด็กที่อยู่หอพัก 6% และอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อแม่ 5%
รุ่นมัธยมปลายอยากกลับบ้านเพิ่มขึ้นจากระดับมัธยมต้น
เป็น 62% และไม่อยากกลับบ้านเพียง 13% เทียบเท่ากับประถมปลาย
สำหรับระดับมัธยมปลายนั้น
สาเหตุที่ทำให้เด็กไม่อยากกลับบ้านก็คล้ายคลึงกัน
พบว่านักเรียนมัธยมปลายอยู่หอเพิ่มขึ้นเป็น 25%
แต่เพิ่มมาอีกอย่างคือการเรียนพิเศษ
นั่นแสดงให้เห็นว่า นักเรียนระดับมัธยมปลายให้ความสำคัญกับการเรียนเพิ่มขึ้น
อีกทั้งยังให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยมากที่สุดด้วย
โดยภาพรวมนักเรียนส่วนใหญ่ ยังอยากรีบกลับบ้านมากกว่าไม่อยากกลับบ้าน
นักเรียนแต่ละวัยให้ความสำคัญและความต้องการอยู่บ้านแตกต่างกัน
ดังนั้นผู้ที่เป็นพ่อแม่
ไม่ควรมองข้ามการปรับเปลี่ยนสภาพบ้านให้เหมาะสมกับเด็กๆ ของท่าน
ตามวัยของเขาด้วย
เช่น
ประถมปลายให้ความอบอุ่นมากๆ
มัธยมต้นเน้นความสนุกสนาน
มัธยมปลายให้ความสำคัญกับความปลอดภัย
เมื่อพ่อแม่ทำให้บ้านน่าอยู่/น่ากลับ
เมื่อลูกๆ ได้เผชิญปัญหาชีวิตภายนอกบ้าน เขาก็จะคิดถึงบ้านและจะกลับบ้าน
เหมือนเรื่องราวตอนหนึ่งในพระคริสตธรรมคัมภีร์
ที่ลูกคนหนึ่งออกจากบ้านไปพร้อมกับเงินทองที่พ่อให้
เพื่อไปใช้ชีวิตตามความปรารถนาของตัวเอง
จนวันที่เงินทองเหล่านั้นหมดไป ถึงคราวตกอับ จึงคิดถึงพ่อและอยากกลับบ้าน
ลก.15:17-19
ลก.15:17
เมื่อเขารู้สำนึกตัวแล้ว จึงพูดว่า
"ลูกจ้างของบิดาเรามีมาก ยังมีอาหารกินอิ่มและเหลืออีก
ส่วนเราจะมาตายเสียที่นี่เพราะอดอาหาร
ลก.15:18
จำเราจะลุกขึ้นไปหาบิดาเรา และพูดกับท่านว่า
"บิดาเจ้าข้า ข้าพเจ้าได้ผิดต่อสวรรค์และผิดต่อท่านด้วย
ลก.15:19
ข้าพเจ้าไม่สมควรจะได้ชื่อว่าเป็นลูกของท่านต่อไป
ขอท่านให้ข้าพเจ้าเป็นเหมือนลูกจ้างของท่านคนหนึ่งเถิด"